“วันนี้หมอมาเล่าเคสให้ฟังครับ…”

มีคนไข้ชายอายุ 50 ปี ประวัติดื่มสุราเรื้อรัง มาถึงโรงพยาบาลด้วยอาการหมดสติระหว่างดื่มสุรา ตรวจ CT สมองเบื้องต้น ยังไม่เจอเลือดออก หรือ ภาวะสมองขาดเลือด แต่จากการซักประวัติเพิ่มเติม พบว่าคนไข้เคยมีอาการ ปวดศีรษะ คอแข็ง มาก่อน

หมอเลยตัดสินใจ เจาะน้ำไขสันหลัง ปรากฏว่าผลออกมาชัดเจนเลยครับ เป็นการติดเชื้อแบคทีเรีย ในเยื่อหุ้มสมอง น้ำไขสันหลังมีเซลล์เม็ดเลือดขาวสูง โปรตีนสูง น้ำตาลต่ำ ซึ่งเป็นลักษณะของ เยื่อหุ้มสมองอักเสบจากแบคทีเรีย

ทีนี้ พอให้ยาปฏิชีวนะไป คนไข้ยังไม่รู้สึกตัว หมอเลยส่ง CT สมองซ้ำ อีก 2 วัน คราวนี้เจอว่า เชื้อลามเข้าเนื้อสมองแล้ว เห็นเป็นรอยดำกินพื้นที่เกือบครึ่งสมองเลย

สิ่งที่หมออยากให้ทุกคนระวัง

เยื่อหุ้มสมองอักเสบจากแบคทีเรียแบบนี้ พบได้เยอะใน กลุ่มคนที่ดื่มสุราเรื้อรัง หรือมีโรคประจำตัว

หากปล่อยไว้ เชื้ออาจลามเข้าเนื้อสมอง หรือทำให้เกิดภาวะสมองบวม ถึงขั้นเสียชีวิตได้

อย่าคิดว่าเป็นแค่ ปวดหัวธรรมดา เพราะบางทีมันอาจเป็นสัญญาณของโรคร้ายแรง

แล้วเราป้องกันได้ยังไง?
✅ เลิกเหล้า – ลดความเสี่ยงติดเชื้อ และลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน
✅ ออกกำลังกาย – เสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง
✅ นอนให้พอ – ร่างกายจะได้ฟื้นตัวดี ไม่ปล่อยให้ภูมิคุ้มกันตก
✅ หลีกเลี่ยงอาหารดิบ – ลดโอกาสติดเชื้อแบคทีเรีย
✅ มีอาการผิดปกติอย่าปล่อยไว้ – ปวดหัว คอแข็ง ซึมลง รีบพบแพทย์ทันที

หมอขอฝากไว้เท่านี้ครับ ใครที่มีพฤติกรรมเสี่ยง ลองกลับไปดูแลตัวเองกันนะครับ”